ในช่วงที่ท้อง 1-4 สัปดาห์ร่างกายภายนอกแทบไม่เปลี่ยนแปลง นั่นหมายความว่าคุณแม่หลายคนอาจกำลังตั้งท้องไม่รู้ตัว วันนี้เรามาเช็กอาการกันค่ะว่าท้องไม่ท้อง!
อาการคนท้อง 1-2 สัปดาห์แรก
ประจำเดือนขาด เป็นอาการหลัก ๆ ที่แสดงสัญญาณการตั้งครรภ์ได้ชัดเจนที่สุด โดยหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ หากประจำเดือนขาดหายไปนานเกินกว่า 10 วันจากรอบประจำเดือนปกติ อาจจะเป็นสัญญาณว่ากำลังตั้งครรภ์ แต่ในกรณีที่ประจำเดือนไม่สม่ำเสมออยู่แล้วอาการขาดประจำเดือนนั้นก็อาจเกิดจากความผิดปกติภายในร่างกายอื่นๆที่ไม่ใช่การตั้งครรภ์ได้เช่นกันค่ะ
คัดเต้านมและหัวนมมีสีที่เปลี่ยนไป เป็นอาการหลังขาดประจำเดือน เต้านมตึง ขยายขนาดใหญ่ขึ้น หนาขึ้น หนักขึ้น จะรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวนมเมื่อสัมผัสโดนหรือเสียดสีกับเสื้อผ้า เริ่มมีตุ่มเล็ก ๆ เกิดขึ้นบริเวณรอบหัวนม รวมถึงมีเส้นเลือดบริเวณเต้านมนูนขึ้นมาชัดเจน บริเวณรอบ ๆ หัวนมจะคล้ำขึ้นและขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปหลังการตั้งครรภ์ 3 เดือนค่ะ
มีตกขาวมากกว่าปกติ เนื่องจากการตั้งครรภ์ส่งผลให้ฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง อาจทำให้เกิดการตกขาวมากขึ้น มีลักษณะเป็นมูกมีสีขาวขุ่นหรือสีครีม แต่หากตกขาวนั้นมีสีเขียวหรือสีเหลือง หรืองมีอาการคันร่วมด้วย ถ้ามีอาการเหล่านี้ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยความผิดปกตินะคะ
ปัสสาวะบ่อย ตั้งครรภ์ระยะ 1-2 สัปดาห์แรก ฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ร่างกายสร้างของเหลวขึ้นมามากขึ้น จึงทำให้ปัสสาวะบ่อยตามไปด้วย
มีไข้ต่ำ ๆ ในตอนเย็น เนื่องจากร่างกายคุณแม่มีการเปลี่ยนแปลงในระบบต่าง ๆ เพื่อให้พร้อมสำหรับการเติบโตของทารก ทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น รู้สึกมีไข้ต่ำ ๆ ในตอนเย็น ซึ่งเป็นอาการที่สามารถพบได้ปกติ เพียงดื่มน้ำเยอะ ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้อาการดีขึ้นค่ะ
ปวดหลัง เมื่อเริ่มตั้งครรภ์อาจมีอาการปวดหลังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนโดยจะปวดบริเวณหลังล่าง ร่วมถึงมีตะคริวร่วมด้วย เกิดจากการขยายตัวของกล้ามเนื้อหลังส่วนกลาง หากสงสัยว่าอาจปวดหลังจากสาเหตุการตั้งครรภ์ไม่ควรซื้อยาทานเองเด็ดขาดนะคะ
.
อาการคนท้องที่เพิ่มเข้าในช่วง 2-4 สัปดาห์
ท้องผูกหรือท้องอืดมากกว่าปกติ โดยเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเพื่อเข้าสู่สภาวะการตั้งครรภ์ อาการท้องอืดนี้จะมีลักษณะที่คล้ายกับช่วงเริ่มมีประจำเดือน จะรู้สึกอึดอัด มีอาการแน่นท้อง อาหารย่อยยาก ย่อยได้ช้าลง มีลมในกระเพาะมาก
.
เหนื่อยล้าอ่อนเพลียง่าย คุณแม่จะรู้สึกเหนื่อยง่ายในขณะทำกิจกรรมที่ต้องใช้แรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อ่อนเพลียและง่วงนอน เนื่องจากระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนมีระดับที่สูงขึ้น ช่วงนี้อาจต้องลดกิจกรรมระหว่างวันไปก่อน ควรทานอาหารที่มีประโยชน์และพักผ่อนให้เพียงพอ
.
ความต้องการทางเพศเปลี่ยนไป มีทั้งกรณีที่ความต้องการทางเพศเพิ่มขึ้นเมื่อตั้งครรภ์ หรือในบางรายความต้องการอาจจะลดลงกว่าปกติ แต่จะเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติ เมื่อเข้าสู่การตั้งครรภ์ในไตรมาสที่สอง
.
ความอยากอาหารเปลี่ยนแปลง ผู้ที่ตั้งครรภ์ระยะแรกอาจมีอาการอยากอาหารที่แตกต่างไปจากชีวิตประจำวัน อยากกินของเปรี้ยวหรืออยากกินของแปลก ๆ หรือชอบอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งมากเป็นพิเศษ บางคนอยากอาหารที่มีรสเปรี้ยวมากขึ้นหรืออยากกินของแปลกโดยไม่มีสาเหตุ
.
ไวต่อกลิ่น อาการนี้เรียกว่า “Super Smell” จะมีสัมผัสที่ไวต่อกลิ่นทุกชนิดเป็นพิเศษ กลิ่นน้ำหอมที่หอมอาจจะรู้สึกเหม็นก็ได้หรือกลิ่นสิ่งของต่าง ๆ บางกลิ่นอาจจะได้กลิ่นแรงจนกลายเป็นเหม็น หรือบางรายอาจมีอาการเหม็นอาหารและอาจทำให้คลื่นไส้อาเจียนตามมาด้วย
.
อารมณ์แปรปรวนและหงุดหงิดง่าย เป็นอาการที่กำลังเข้าสู่ช่วงสภาวะตั้งครรภ์ระยะแรก เกิดการผันผวนและการเพิ่มขึ้นของระดับฮอร์โมนในช่วงแรก ๆ ของการตั้งครรภ์ เมื่อผ่านพ้นระยะนี้ไปก็จะกลับสู่สภาวะปกติ วิธีที่จะช่วยลดอาการคือควรทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย ถ้าเป็นไปได้พยายามไม่เครียดนะคะ
.
หากคุณแม่มีอาการเบื้องต้นตามนี้ให้สงสัยไว้ได้เลยค่ะว่าอาจจะตั้งครรภ์แล้วก็เป็นได้ และควรซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจเองเบื้องต้นก่อน เมื่อผลออกมาว่าตั้งครรภ์คุณแม่ต้องไปฝากครรภ์โดยเร็วนะคะ เพื่ออยู่ในความดูแลของคุณหมอและรับคำแนะนำในการดูแลตนเองระหว่างตั้งครรภ์โดยเฉพาะวิธีรับมืออาการผิดปกติต่างๆ เบื้องต้น และอย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอเพื่อสุขภาพที่ดีทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์นะคะ
.
ที่มา: https://www.wongnai.com/articles/check-symptom-first-pregnancy
#MommyDaddylife #Maternityexpert #ตั้งครรภ์ #คนท้อง #คุณแม่มือใหม่
—————————————————————
สามารถติดตาม Mommydaddylife ในช่องทาง Facebook