ลูกน้อยไอเสียงเห่า เฝ้าระวังโรคครูป
หากลูกน้อยมีอาการไอคล้ายเสียงเห่า ไอเสียงก้อง อาการดังกล่าวอาจเสี่ยงเป็น “โรคครูป” (Croup) ซึ่งเป็นการอักเสบของกล่องเสียงและหลอดลมเกิดจากการติดเชื้อไวรัส เชื้อที่ทำให้เกิด Croup ได้บ่อย คือ ไวรัสพาราอินฟลูเอนซ่า (Parainfluenza) และในปัจจุบันโควิดก็เป็นไวรัสที่มักทำให้เกิด Croup ได้เช่นกัน
ในช่วงฤดูฝนที่ตรงกับช่วงเปิดเทอมในประเทศไทย (ประมาณเดือนพฤษภาคม–กรกฎาคม) การดูแลสุขภาพของแม่และเด็กเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากมีโรคภัยไข้เจ็บหลายชนิดที่มักระบาดในช่วงนี้ โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ MommyDaadyLife มาขอเตือนให้คุณพ่อคุณแม่ควรเพิ่มความระวังกันค่ะ
.
โรคครูป (Croup) หรือที่เรียกในทางการแพทย์ว่า Laryngotracheobronchitis เป็นโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจส่วนบนทที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก โดยเฉพาะในช่วงอายุ 6 เดือนถึง 3 ปี ซึ่งมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัสและมีอาการเด่นคือ ไอเสียงก้อง (barking cough) เสียงแหบ และเสียงดังวี้ดๆ (stridor) ขณะหายใจเข้า
🦠 โรคครูป คืออะไร?
Croup คือ การอักเสบของกล่องเสียง (larynx), หลอดลม (trachea) และหลอดลมขนาดเล็ก โดยเฉพาะบริเวณที่เรียกว่า subglottic area ซึ่งเป็นส่วนที่แคบที่สุดในทางเดินหายใจของเด็ก โรคนี้มักเกิดจาก การติดเชื้อไวรัส
-
-
ไวรัสพาราอินฟลูเอนซา (Parainfluenza virus) : เป็นสาเหตุหลักของโรคครูปในเด็กเล็ก (พบมากที่สุด)
-
ไวรัสพาราอินฟลูเอนซา (Parainfluenza virus) : เป็นสาเหตุหลักของโรคครูปในเด็กเล็ก
-
ไวรัสอะดีโน (Adenovirus) : อาจทำให้เกิดอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่
-
ไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) : มักพบในเด็กเล็กและสามารถทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจส่วนล่างได้
-
ไวรัสหัด (Measles virus) : สามารถทำให้เกิดอาการคล้ายโรคครูปได้
-
ไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A (Influenza A) : มักทำให้เกิดอาการที่รุนแรงและพบบ่อยในเด็กอายุ 3-7 ปี
-
การติดเชื้อเหล่านี้มักติดต่อผ่านละอองฝอยจากการไอหรือจาม และสามารถแพร่กระจายได้ง่ายในที่แออัด
😷 อาการของโรคครูป
อาการมักเริ่มต้นคล้ายไข้หวัดทั่วไป เช่น ไข้ต่ำ เจ็บคอ น้ำมูกไหล และไอเล็กน้อย หลังจากนั้นประมาณ 1-2 วัน อาการมักเป็นมากในเวลากลางคืน และอาจรุนแรงเฉียบพลัน เด็กอาจเริ่มมีอาการเด่นดังนี้
-
- ไอเสียงก้อง (Barking cough) : เสียงไอที่มีลักษณะคล้ายเสียงสุนัขเห่า
- เสียงแหบ : เกิดจากการอักเสบของกล่องเสียง
- เสียงวี้ด (Stridor) : เสียงหายใจเข้าแหบๆ ซึ่งเกิดจากการตีบแคบของทางเดินหายใจส่วนต้น
- หายใจลำบาก : อาจพบในกรณีที่อาการรุนแรง
- มีไข้ : อาจมีไข้ต่ำหรือไข้สูง
- หงุดหงิด ซึม เบื่ออาหาร : ในรายที่อาการรุนแรงขึ้น
🏥 การรักษาโรคครูป
การดูแลเบื้องต้นที่บ้าน
-
- ให้นั่งในห้องที่มีไอน้ำ เช่น ห้องน้ำเปิดฝักบัวน้ำอุ่น (steam therapy)
- ให้ดื่มน้ำอุ่นมาก ๆ
- พาเด็กอยู่ในท่ากึ่งนั่ง
- ไม่ควรให้เด็กร้องไห้มาก เพราะจะทำให้หายใจลำบาก
การรักษาทางการแพทย์ (หากอาการรุนแรง)
-
- ให้ ยาสเตียรอยด์ เช่น Dexamethasone เพื่อลดการอักเสบ
- พ่นยา adrenaline (ในรายที่มี stridor ชัดเจนหรือหายใจลำบาก)
- ให้ออกซิเจนหรือให้น้ำเกลือในกรณีเด็กไม่ยอมกินน้ำ
- ในบางรายที่รุนแรงมาก อาจต้องใส่ท่อช่วยหายใจ
🚨 ควรพาเด็กพบแพทย์ทันที หากมีอาการต่อไปนี้
-
-
หายใจมีเสียงดังตลอดเวลา (แม้อยู่เฉย ๆ)
-
หายใจลำบาก หน้าอกบุ๋ม หายใจเร็ว
-
ซึม ไม่ตอบสนอง หรือมีอาการเขียวคล้ำ
-
ดื่มน้ำไม่ได้ หรืออาเจียนบ่อย
-
🛡️ การป้องกันโรคครูป
-
- ล้างมือบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส
- หลีกเลี่ยงพาเด็กไปที่ชุมชน สถานที่ที่มีคนแออัดหรือพลุกพล่าน เช่น สนามเด็กเล่น บ้านบอล ห้างสรรพสินค้า ล้างมือทุกครั้งหลังจากสัมผัสกับของเล่นหรือเครื่องเล่นสาธารณะ
- ใส่หน้ากากอนามัยกรณีคนในบ้านป่วยเพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่เชื้อไปสู่เด็ก
- ในเด็กเล็กควรรับประทานน้ำนมแม่อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันจากแม่สู่ลูก
- พาลูกน้อยไปฉีดวัคซีนตามกำหนด โดยเฉพาะ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ และ RSV (ในกลุ่มเสี่ยง)
- หลีกเลี่ยงอากาศเย็นจัดหรือการเปลี่ยนอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว
.
หากสงสัยว่าเด็กอาจมีอาการของโรคครูป ควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดและอย่าลังเลที่จะพาไปพบแพทย์เพื่อประเมินอาการอย่างละเอียด เพราะการรักษาแต่เนิ่นๆ คือกุญแจสำคัญในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้
การดูแลสุขภาพคุณแม่และลูกน้อยในช่วงฤดูฝนเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อและโรคต่าง ๆ การเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล ดูแลสิ่งแวดล้อม และสังเกตอาการของเด็กอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้เด็ก ๆ มีสุขภาพที่ดีและปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บในช่วงฤดูฝนนี้ค่ะ
สามารถติดตามข้อมูล #MommyDaddyLife เพิ่มเติมได้ที่
Facebook : mommydaddylifeofficial
TikTok : mommydaddylifeofficial
Youtube : mommydaddylife-MDL
Website : www.mommydaddylife.com