เที่ยววันลอยกระทงกับลูกน้อยให้สนุกและปลอดภัย
“วันลอยกระทง” ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ของทุกปี ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะพาลูกน้อยไปลอยกระทง MommyDaddyLife ขอแนะนำประวัติของวันลอยกระทงและวิธีการเที่ยววันลอยกระทงให้สนุก ปลอดภัย และเบอร์ที่ใช้ติดต่อหากเกิดเหตุไม่คาดคิดมาฝากกันค่ะ
ประวัติวันลอยกระทง
วันลอยกระทง ของทุกปีจะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติไทย หรือถ้าเป็นปฏิทินจันทรคติล้านนาจะตรงกับเดือนยี่ และหากเป็นปฏิทินสุริยคติจะราวเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเดือน 12 เป็นช่วงต้นฤดูหนาว อากาศจึงเย็นสบาย และอยู่ในช่วงฤดูน้ำหลาก มีน้ำขึ้นเต็มฝั่ง ทำให้เห็นสายน้ำอย่างชัดเจน อีกทั้งวันขึ้น 15 ค่ำ เป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวง ทำให้สามารถเห็นแม่น้ำที่มีแสงจันทร์ส่องกระทบลงมา เป็นภาพที่ดูงดงามเหมาะแก่การชมเป็นอย่างยิ่ง
.
ประวัติวันลอยกระทงนั้น ไม่มีหลักฐานระบุแน่ชัดว่าเริ่มตั้งแต่เมื่อใด แต่เชื่อว่าประเพณีนี้ได้สืบต่อกันมายาวนานตั้งแต่สมัยสุโขทัย โดยในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง เรียกประเพณีลอยกระทงนี้ว่า “พิธีจองเปรียญ” หรือ “การลอยพระประทีป” และมีหลักฐานจากศิลาจารึกหลักที่ 1 กล่าวถึงงานเผาเทียนเล่นไฟว่าเป็นงานรื่นเริงที่ใหญ่ที่สุดของกรุงสุโขทัย ทำให้เชื่อกันว่างานดังกล่าวน่าจะเป็นงานลอยกระทงอย่างแน่นอน
.
ในสมัยก่อนนั้นพิธีลอยกระทงจะเป็นการลอยโคม โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงสันนิษฐานว่า พิธีลอยกระทงเป็นพิธีของพราหมณ์ จัดขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้า 3 องค์ คือ พระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม ต่อมาได้นำพระพุทธศาสนาเข้าไปเกี่ยวข้อง จึงให้มีการชักโคม เพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุ และลอยโคมเพื่อบูชารอยพระบาทของพระพุทธเจ้า ก่อนที่นางนพมาศ หรือ ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ สนมเอกของพระร่วง จะคิดค้นประดิษฐ์กระทงดอกบัวขึ้นเป็นคนแรกแทนการลอยโคม เมื่อสมเด็จพระร่วงเจ้าได้เสด็จฯ ทางชลมารค ทอดพระเนตรกระทงของนางนพมาศก็ทรงพอพระราชหฤทัย จึงโปรดให้ถือเป็นเยี่ยงอย่าง และให้จัดประเพณีลอยกระทงขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยให้ใช้กระทงดอกบัวแทนโคมลอย ดังพระราชดำรัสที่ว่า “ตั้งแต่นี้สืบไปเบื้องหน้า โดยลำดับกษัตริย์ในสยามประเทศถึงกาลกำหนดนักขัตฤกษ์วันเพ็ญเดือน 12 ให้ทำโคมลอยเป็นรูปดอกบัว อุทิศสักการบูชาพระพุทธบาทนัมมทานทีตราบเท่ากัลปาวสาน” พิธีลอยกระทงจึงเปลี่ยนรูปแบบตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
.
ประเพณีลอยกระทงสืบต่อกันเรื่อยมา จนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น สมัยรัชกาลที่ 1 ถึง รัชกาลที่ 3 พระบรมวงศานุวงศ์ตลอดจนขุนนางนิยมประดิษฐ์กระทงใหญ่เพื่อประกวดประชันกัน ซึ่งต้องใช้แรงคนและเงินจำนวนมาก พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงเห็นว่าเป็นการสิ้นเปลือง จึงโปรดให้ยกเลิกการประดิษฐ์กระทงใหญ่แข่งขัน และโปรดให้พระบรมวงศานุวงศ์ทำเรือลอยประทีปถวายองค์ละลำแทนกระทงใหญ่ และเรียกชื่อว่า “เรือลอยประทีป” ต่อมาในรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 ได้ทรงฟื้นฟูพระราชพิธีนี้ขึ้นมาอีกครั้ง จนมาถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ที่ทรงกระทำเป็นการส่วนพระองค์ตามพระราชอัธยาศัย
กิจกรรมวันลอยกระทง
ในปัจจุบันมีการจัดงานลอยกระทงทุก ๆ จังหวัด ซึ่งจะมีกิจกรรมแตกต่างกันไปในแต่ละสถานที่ แต่กิจกรรมที่มีเหมือน ๆ กันก็คือ การประดิษฐ์กระทง โดยนำวัสดุต่าง ๆ ทั้งหยวกกล้วย ใบตอง หรือจะเป็นกาบพลับพลึง เปลือกมะพร้าว ฯลฯ มาประดับตกแต่งด้วยดอกไม้ ธูป เทียน เครื่องสักการบูชา ให้เป็นกระทงที่สวยงาม ภายหลังมีการใช้วัสดุโฟมที่สามารถประดิษฐ์กระทงได้ง่าย แต่จะทำให้เกิดขยะที่ย่อยสลายยากขึ้น จึงมีการรณรงค์ให้เลิกใช้กระทงโฟมเพื่อพิทักษ์สิ่งแวดล้อม ก่อนจะมีการดัดแปลงวัสดุทำกระทงให้หลากหลายขึ้น เช่น กระทงขนมปัง กระทงกระดาษ กระทงพลาสติกชนิดพิเศษ เพื่อให้ย่อยสลายง่ายและไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อม
.
เมื่อไปถึงสถานที่ลอยกระทง ก่อนทำการลอยก็จะอธิษฐานในสิ่งที่ปรารถนาขอให้ประสบความสำเร็จ หรือเสี่ยงทายในสิ่งต่าง ๆ จากนั้นจึงปล่อยกระทงให้ลอยไปตามสายน้ำ และในกระทงมักนิยมใส่เงินลงไปด้วย เพราะเชื่อกันว่าเป็นการบูชาพระแม่คงคา
.
นอกจากการลอยกระทงแล้ว มักมีกิจกรรมประกวดนางนพมาศอันเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของประเพณีลอยกระทง และตามสถานที่จัดงานจะมีการประกวดกระทง ขบวนแห่ มหรสพสมโภชต่าง ๆ บางแห่งอาจมีการจุดพลุ ดอกไม้ไฟเฉลิมฉลองด้วย
วิธีเที่ยววันลอยกระทงกับลูกน้อยให้สนุกและปลอดภัย
ก่อนคุณพ่อคุณแม่จะพาลูกน้อยไปเที่ยวลอยกระทง ในเทศกาลที่คนหนาแน่น และเต็มไปด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ความปลอดภัยก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องเตรียมรับมือในการพาลูกน้อยของบ้านออกไปยังสถานที่นอกบ้าน MommyDaddyLife มีวิธีเที่ยววันลอยกระทงให้สนุกและปลอดภัย มีอะไรบ้างที่ควรระวังมาฝากกันค่ะ
- เขียนชื่อที่อยู่เบอร์โทรศัพท์ให้ลูกพกติดตัวไว้เผื่อหลงหรือเกิดเหตุไม่คาดฝัน ถ้ามีผู้ใหญ่มาพบเข้าจะได้ติดต่อคุณพ่อคุณแม่ให้มารับลูกได้
- เลือกชุดที่เคลื่อนไหวได้สะดวกทะมัดทะแมง หากไปช่วงกลางคืนอย่าลืมเตรียมเสื้อกันหนาวไปด้วยก็ดี
- สวมรองเท้าหุ้มส้นหรือรัดส้นให้ลูก เลือกแบบกันลื่น เพราะอาจต้องเข้าไปลอยใกล้ ๆ ริมตลิ่งจะได้ไม่พลัดตกน้ำหรือเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
- บอกเด็กๆ ให้อยู่ห่างไกลและหลีกเลี่ยงการเล่นพลุและดอกไม้ไฟทุกชนิด เพราะมีอันตรายและผิดกฎหมาย
- เลือกสถานที่ลอยกระทงที่ผู้คนไม่แออัดเกินไป ไม่มืดหรือเปลี่ยว เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้
- ไม่ควรให้ลูกพกของมีค่า เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือใส่เครื่องประดับราคาแพง เพราะมีคนจำนวนมาก อาจมีพวกมิจฉาชีพแฝงตัวมาด้วย
2 เบอร์ที่ควรมีเมื่อพาลูกน้อยไปลอยกระทง
หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นมาระหว่างเที่ยวในช่วงเทศกาลลอยกระทง คุณพ่อคุณแม่ตั้งสติและ ติดต่อ 2 เบอร์นี้ที่ใช้ติดต่อเมื่อเกิดเรื่องขึ้นค่ะ
อุบัติเหตุเล่นพลุ, ดอกไม้ไฟ
เด็กเล็กไม่ควรเล่นหรือหากต้องการเล่นจำเป็นต้องมีผู้ใหญ่ดูแลอย่างใกล้ชิดเพราะอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และหากได้รับบาดเจ็บจากการโดนดอกไม้ไฟ รีบปฐมพยาบาลด้วยน้ำสะอาด และหากเป็นแผลใหญ่ค่อนข้างรุนแรง ให้โทรแจ้ง 1669
เกิดเหตุตก, จมน้ำ
ในสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน อาจทำให้เด็กพลัดตกน้ำได้ง่าย รวมไปถึงความซุกซนที่ยากจะตามจับตัว ดังนั้น ควรจูงมือหรือคอยสอดส่องหรือคอยตามดูแลอยู่ตลอดเวลาที่ลูกอยู่ใกล้แหล่งน้ำ และหากมีการจมน้ำหรือพลัดตกลงไป รีบปฐมพยาบาลเบื่องต้นด้วยการจับนอนตะแคงและหงายศีรษะไปข้างหลัง หากไม่ได้สติต้องทำการ CPR และรีบแจ้งไปที่เบอร์ 1669
การพลัดหลง
เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะที่ไหน ในสถานที่ๆ มีผู้คนมารวมกันมากๆ มีสิ่งต่างๆล่อตาล่อใจให้เจ้าตัวน้อยของเราเดินตามหรือหยุดมองจนไม่เดินตามเรามาต่อ การพลัดหลงย่อมเกิดขึ้นได้เสมอโดยที่เราไม่ทันได้ระวังตัว ดังนั้นควรบันทึกรูปของลูกไว้ในโทรศัพท์รวมถึงจดจำชุดเสื้อผ้าของลูกให้ได้ว่าใส่ตัวไหนออกมานอกบ้าน และอย่าลืมที่จะให้เบอร์ติดต่อพร้อมชื่อของลูกให้พกติดตัวลูกไว้ด้วย
สำคัญที่สุดต้องสอนเจ้าตัวน้อยว่า อย่าไว้ใจหรือตามคนแปลกหน้าไปเด็ดขาด และหากเกิดเหตุพลัดหลงกันขึ้นมาจริงๆ ให้ติดต่อเบอร์คนหาย 1300
อุบัติเหตุทางถนน
แน่นอนว่าเมื่อเป็นสถานที่ใครๆ ต่างก็พากันมาเพื่อทำกิจกรรม เรื่องรถราเองก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ควรระวังสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่พาลูกออกมาลอยกระทงเพราะบางครั้งเราก็อาจจะจับไม่ได้ไล่ไม่ทันเวลาเขากำลังสนุกและตื่นเต้นไปกับบรรยากาศรอบข้าง ดังนั้นจึงควรดูแลอย่างใกล้ชิดและจูงมืออยู่ตลอดเวลา หากเกิดอุบัติเหตุใดๆขึ้น รีบติดต่อเบอร์ 1669
การคุกคามทางเพศ ,การลักพาตัว
ในสถานการณ์ที่มีผู้คนมากหน้าหลายตา อาจจะมีกลุ่มคนไม่หวังดีปรากฏตัวขึ้นและก่อให้เกิดอันตรายกับลูกหลานของเราได้ ไม่ว่าจะเป็นการฉวยโอกาสล่วงละเมิดทั้งถ่ายรูปหรือสัมผัสจับต้องและ อาจร้ายแรงไปจนถึงการลักพาตัว ฉะนั้นแล้วจึงต้องระวังให้มาก สอนลูกว่าไม่ควรไว้ใจใครหรือยอมตามใครไปง่ายๆ หากถูกจับให้พยายามส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ แต่หากเกิดเหตุขึ้นแล้ว รีบแจ้งเบอร์ 1300
.
MommyDaddyLife หวังว่าคุณพ่อคุณแม่และลูกน้อยจะเที่ยวเทศกาลลอยกระทงอย่างสนุกสนาน สืบสานประเพณีไทย อย่างมีความสุขและปลอดภัยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูล : kapook.com , passkidsshop.com , parentsone.com
———–
สามารถติดตามข้อมูล #MommyDaddyLife เพิ่มเติมได้ที่
Website : mommydaddylife.com
Facebook: Mommydaddylifeofficial
TikTok : Mommydaddylife
YouTube: MommyDaddyLife