ป้องกันให้ลูกน้อยปลอดภัยจากโรคมือเท้าปาก

ในช่วงหน้าฝนนอกจากไวรัส RSV แล้ว คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องเฝ้าระมัดระวังการป่วยของลูกน้อยกับโรคที่มาพร้อมกับฝนกันพอสมควรนะคะ และอีกโรคที่ต้องเฝ้าระวัง! โรคมือ เท้า ปาก ในเด็ก เป็นโรคระบาดของเด็กในช่วงหน้าฝนค่ะ

เมื่อลูกต้องไปโรงเรียนเลี่ยงไม่ได้เลยที่อาจจะติดโรคนี้มาจากเพื่อนเล่น หรือผู้ดูแลค่ะ สามารถติดต่อผ่านการสัมผัสโดยตรงกับสารคัดหลั่งของผู้ป่วย และจากการสัมผัสทางอ้อมผ่านของเล่น มือผู้เลี้ยงดู น้ำ และอาหารที่มีการปนเปื้อนเชื้อโรค

โรค มือ เท้า ปาก (Hand, Foot, and Mouth Disease – HFMD)

คือ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสกลุ่มเอนเทอโร (Enter0viruses) เชื้ออาจจะแพร่กระจายจากการติดมากับมือหรือของเล่นที่เปื้อนน้ำลาย น้ำมูก น้ำจากตุ่มพองและแผล หรืออุจจาระของผู้ป่วย หรือติดต่อจากการไอ จาม รดกัน มักพบในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยส่วนใหญ่มักพบการแพร่ระบาดในโรงเรียนอนุบาล และสถานรับเลี้ยงเด็ก

วิธีสังเกตลูกน้อยว่ามีอาการโรค มือ เท้า ปาก หรือไม่

อาการ หลังจากได้รับเชื้อ 3-6 วัน ผู้ติดเชื้อโรคมือ เท้า ปาก จะเริ่มแสดงอาการป่วย

หากลูกน้อยได้รับเชื้อมา เริ่มแรกจะมีอาการเล็กน้อย เช่น มีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย ต่อมาอีก 1-2 วัน จะมีอาการเจ็บปาก ร่วมกับมีตุ่มพองเล็กๆ บริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า ตุ่มแผลในปาก บริเวณเพดานอ่อน กระพุ้งแก้ม ลิ้น และจะแตกออกเป็นแผลหลุมตื้นๆ

ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 วัน หรือมีไข้ขึ้นสูง ซึมลง เดินเซ ชัก เกร็ง หายใจหอบเหนื่อย อาเจียนมาก คุณพ่อคุณแม่ต้องรีบพาลูกไปพบแพทย์ทันทีนะคะ

มีวิธีการะรักษาอย่างไร?

โดยทั่วไปแล้ว อาการโรค มือ เท้า ปาก จะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับค่ะ แพทย์จะดูแลรักษาตามอาการ เช่น การให้รับประทานยาแก้ไข้ ในรายที่เพลียมากแพทย์อาจให้นอนรักษาตัวในโรงพยาบาลและให้น้ำเกลือทางหลอดเลือด ร่วมกับให้ยาลดไข้แก้ปวด ยารักษาแผลในปาก และให้ยาปฏิชีวนะในกรณีที่จำเป็น ร่วมกับการเฝ้าระวังสังเกตอาการของภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง

ป้องกันอย่างไรให้ลูกน้อยของเราปลอดภัย

อย่างที่ทราบ โรคมือ เท้า ปาก ติดต่อได้ผ่านการรับเชื้อไวรัสจากทางเดินอาหาร น้ำมูก น้ำลาย และจากการหายใจเอาเชื้อที่แพร่จากผู้ป่วยเข้าไป คุณพ่อคุณแม่ควรดูแล ใส่ใจสุขอนามัยของลูกน้อยกันมากๆ ค่ะ